00:26

จังหวัดนครพนม

พระธาตุพนมค่าล้ำ วัฒนธรรมหลากหลาย เรณูผู้ไท เรือไฟโสภา งามตาฝั่งโขง


http://www.thatphanom.com/webboard/photo/mon02march200923110145.jpg
พระธาตุพนม

ข้อมูลทั่วไป :

นครพนม เมืองนครแห่งอีสาน ดินแดนสองฝั่งแม่น้ำโขงแถบนี้ เดิมทีเป็นที่ตั้งของอาณาจักรศรีโคตรบูร ตัวเมืองตั้งอยู่ทางฝั่งซ้ายของลำน้ำโขง(ฝั่งลาว) บริเวณทางใต้ปากเซ บั้งไฟ ตรงข้ามกับพระธาตุพนม ในปัจจุบัน

ประวัติความเป็นมา :

ตามประวัติ เล่ากันว่าเมื่อพญานันทเสน ผู้ครองศรีโคตรบูร สวรรคต เสนาอำมาตย์ และประชาชน ต่างก็เห็นว่าบ้านเมืองเกิดเภทภัย หลายครั้ง ควรที่จะย้าย ไปสร้างเมืองใหม่ อยู่ตรงข้ามกัน ซึ่งเป็นบริเวณที่มีป่าไม้รวก ขึ้นอยู่เป็นดงจึงได้เรียกชื่อเมืองใหม่นี้ว่า “มรุกขนคร” หมายถึง เมืองที่อยู่ในดงไม้รวก มรุกขนคร ในสมัยพญาสุมิตรธรรม เมื่อ พ.ศ. 500 นั้นรุ่งเรืองมาก มีเมืองขึ้นมากมาย และมีการบูรณะพระธาตุพนมขึ้น เป็นครั้งแรกด้วย โดยการก่อพระลานอูบมุง ชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 แล้วสร้างกำแแพง ล้อมรอบ มีงานสมโภชใหญ่โต หลังจากพญา สุมิตรธรรม แล้ว ก็มีผู้ครองนคร ต่อมาอีก 2 พระองค์ แต่ก็เกิดมีเหตุอาเพศ แก่อาณาจักรศรีโคตรบูร จนกลายเป็นเมืองร้าง กระทั่งถึง พ.ศ. 1800 เจ้าศรีโคตรบูร ได้สร้างเมืองมรุกขนครขึ้นใหม่ ใต้เมืองท่าแขก บนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง ในพ.ศ. 2057 ผู้ครองเมืองมรุกขนคร คือพระเจ้านครหลวงพิชิตทศพิศ ราชธานีศรีโคตรบูรหลวง ได้เปลี่ยนชื่อเมืองใหม่กลายเป็น “เมืองศรีโคตรบูร” ตรงตามชื่ออาณาจักรดั้งเดิม ในยุคสมัยนี้ ยังได้มีการบูรณะปฏิสังขรณ์ พระธาตุพนม อีกด้วย ต่อมา พ.ศ. 2280 พระธรรมราชา เจ้าเมืองศรีโคตรบูร องค์สุดท้าย ได้ย้ายเมืองมาตั้งบนฝั่งขวา (ฝั่งไทย) เยื้องเมืองเก่าขึ้นไปทางเหนือ แล้วให้ชื่อว่า “เมืองนคร” ซึ่งก็เจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าจะมีการโยกย้ายอีกหลายครั้ง ดังเช่น พ.ศ.2321 ในรัชกาล สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ก็ได้มีการย้ายเมืองอีกครั้ง ไปตั้งที่บ้าน หนองจันทร์ ห่างขึ้นไปทางทิศเหนือ 52 กิโลเมตร จนถึงสมัยรัชกาลที่ 1 พ.ศ. 2333 เมื่อผู้ครองเมืองนคร ถึงแก่พิราลัย เมืองนคร ก็ได้ขอขึ้นตรงต่อ กรุงเทพมหานคร โดยรัชกาลที่ 1 พระราชทานนามให้ใหม่ว่า “ นครพนม”

ชื่อนครพนมนั้น มีข้อสันนิษฐานว่า เคยเป็นเมืองลูกหลวงมาก่อน และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์จึงได้ใช้คำว่า “ นคร” ส่วนคำว่า “พนม” ก็มาจากพระธาตุพนม ปูชนียสถาน ที่อยู่คู่บ้านคู่เมือง มาช้านาน บ้างก็ว่า มรุกขนคร เดิมที่อยู่ทางฝั่งซ้าย ของแม่น้ำโขง ตั้งอยู่ในบริเวณที่มีภูเขาสลับซับซ้อน จึงนำคำว่า “พนม” ซึ่งแปลว่าภูเขามาใช้ ส่วนคำว่า “นคร” ก็เป็นการดำรงชื่อเมือง ไว้คือ เมืองมรุกขนคร นครพนมจึงหมายถึง “ เมืองแห่งภูเขา” นั่นเอง

อาณาเขต การปกครอง :

จังหวัดนครพนมมีพื้นที่ประมาณ 5,512.668 ตารางกิโลเมตร ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 740 กิโลเมตร แบ่งการปกครองออกเป็น 12 อำเภอ คือ อำเภอเมืองนครพนม ธาตุพนม นาแก ท่าอุเทน เรณูนคร บ้านแพง ปลาปาก ศรีสงคราม นาหว้า โพนสวรรค์ นาทม และอำเภอวังยาง

ทิศเหนือ ติดต่อกับเขตอำเภอเซกา จังหวัดหนองคาย
ทิศใต้ ติดต่อกับเขตอำเภอดงหลวง กิ่งอำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร
ทิศตะวันออก ติดต่อกับแขวงคำม่วน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยมีแม่น้ำโขงเป็นเส้นกั้นพรมแดน
ทิศตะวันตก ติดต่อกับเขตอำเภอกุสุมาลย์ อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร

การเดินทาง :

ทางรถยนต์

จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน ถึงสระบุรี บริเวณกิโลเมตรที่ 107 แยกเข้าทางหลวงหมายเลข 2 ถนนมิตรภาพ ผ่านจังหวัดนครราชสีมา ถึงอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น แยกเข้าทางหลวงหมายเลข 23 ผ่านจังหวัดมหาสารคาม ทางหลวงหมายเลข 213 แล้วแยกขวาเข้าสู่จังหวัดกาฬสินธุ์และผ่านจังหวัดสกลนคร ตรงเข้าสู่จังหวัดนครพนม ตามทางหลวงหมายเลข 22 รวมระยะทางประมาณ 740 กิโลเมตร

ทางรถโดยสารประจำทาง

บริษัท ขนส่ง จำกัด เปิดบริการเดินทางระหว่างกรุงเทพฯ-นครพนม มีทั้งรถโดยสารธรรมดา และรถโดยสารปรับอากาศ ออกจากสถานีขนส่งหมอชิต 2 ทุกวัน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 2936 2852 – 66 และที่จังหวัดนครพนม โทร. 0 4251 1043 สำหรับบริษัทเอกชนติดต่อ บริษัท แสงประทีปเดินรถ จำกัด โทร. 0 4252 0411 บริษัท ชัยสิทธิ์ จำกัด โทร. 0 4252 0651 และบริษัทเชิดชัยทัวร์ จำกัด โทร. 0 4251 2098 www.transport.co.th

ทางเครื่องบิน

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดบริการเที่ยวบินไปจังหวัดนครพนม สอบถามตารางการบินได้ที่ โทร. 1566, 0 2280 0060, 0 2628 2000 , 0 4251 2494 www.thaiairways.com และบริษัท พี บี แอร์ จำกัด 0 2261 0220-5 , 0 4258 7207 www.pbair.com

การเดินทางจากอำเภอเมืองนครพนมไปยังอำเภอต่าง ๆ

อำเภอเมือง กิโลเมตร
อำเภอท่าอุเทน 26 กิโลเมตร
อำเภอปลาปาก 44 กิโลเมตร
อำเภอโพนสวรรค์ 45 กิโลเมตร
อำเภอเรณูนคร 51 กิโลเมตร
อำเภอธาตุพนม 52 กิโลเมตร
อำเภอศรีสงคราม 67 กิโลเมตร
อำเภอนาแก 78 กิโลเมตร
อำเภอวังยาง 80 กิโลเมตร
อำเภอบ้านแพง 93 กิโลเมตร
อำเภอนาหว้า 93 กิโลเมตร
อำเภอนาทม 130 กิโลเมตร

การเดินทางจากนครพนมไปยังจังหวัดใกล้เคียง

สกลนคร 93 กิโลเมตร
มุกดาหาร 104 กิโลเมตร
อุบลราชธานี 271 กิโลเมตร
ขอนแก่น 298 กิโลเมตร
หนองคาย 303 กิโลเมตร


ที่เที่ยว

อ.เมือง

สนามกอล์ฟภูกระแต
มีเนื้อที่ประมาณ 200 ไร่ ตั้งอยู่ที่วิทยาลัยเทคนิคนครพนม รอบอ่างเก็บน้ำภูกระแตเป็นสนามกอล์ฟที่ได้มาตรฐานแห่งหนึ่งในประเทศ มีขนาด 9 หลุม ธรรมชาติสวยสดงดงามมาก อยู่ห่างจากอำเภอเมืองเพียง 4 กิโลเมตร ตามเส้นทางนครพนม-สกลนคร เลี้ยวขวาเข้าไปอีกประมาณ 700 เมตร อาจกล่าวได้ว่าเป็นสนามกอล์ฟที่สวยงามที่สุดในภาคอีสาน ซึ่งหากใครได้มีโอกาสมาสัมผัสเที่ยวชมแล้วจะเป็นภาพประทับใจอยู่ในความทรงจำ ตลอดไป

สวนหลวง ร.9 จังหวัดนครพนม
สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชสักการะ เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนม พรรษาครบ 5 รอบ เป็นสวนสาธารณะที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองนครพนมทางด้านทิศเหนือ

เขื่อนหน้าเมืองนครพนม
เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจที่อยู่ในเขตเทศบาลเมือง สำหรับชมทิวทัศน์อันวิจิตรของแม่น้ำโขง ซึงเป็นเส้นใยสำคัญไหลผ่านตัวเมือง ก่อให้เกิดทัศนียภาพที่สวยสดงดงาม โดยเฉพาะภาพพระอาทิตย์ที่โผล่ทิวเขาเหนือลำน้ำโขงนั้น เป็นภาพที่หาดูได้ยากยิ่ง บริเวณเขื่อนหน้าเมืองนี้อยู่ตรงข้ามกับเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

สวนสาธารณะและหาดทรายท้ายเมือง
นับเป็นหาดทรายน้ำจืดที่สวยงาม มาก จะมีลักษณะเป็นหาดทรายในฤดูแล้ง (ราวเดือนมีนาคม-เมษายน) บริเวณหาดทรายจะยื่นยาวออกไปกลางลำน้ำโขง ทำให้ห่างจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวไม่มากนัก หาดทรายนี้จะอยู่ตรงข้ามกับที่ทำการแขวงคำม่วนพอดี เหมาะสำหรับเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจและชมความงามของธรรมชาติ

วัดโอกาสศรีบัวบาน
เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองมาแต่โบราณ มีศาลเจ้าหมื่น รวมทั้งพระติ้ว พระเทียม ซึ่งเป็นพระคู่บ้านคู่เมือง เป็นที่เคารพสักการะของพระพุทธศาสนิกชนทั่วไป และพระพรหมา สร้างเมื่อ พ.ศ. 2181 โดยเจ้าผู้ครองอาณาจักรศรีโคตรบูรณ์ และพระศิลา (ทำด้วยหิน) ตลอดจนจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงามมาก วัดนี้อยู่ริมฝั่งโขงในเขตเทศบาลเมืองนครพนม

อ.อื่นๆ

ส้นทางสายอำเภอเมือง-เรณูนคร-ธาตุพนม-นาแก
(ทางหลวงหมายเลข 212, 223)

อำเภอเรณูนคร
อยู่ห่างจากพระธาตุพนม 15 กิโลเมตร และห่างจากตัวจังหวัดนครพนมไปทางใต้ 52 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 212 ถึงประมาณกิโลเมตรที่ 44 เลี้ยวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 2031 อีกประมาณ 7 กิโลเมตร ทางลาดยางตลอด เรณูนครเป็นถิ่นที่อยู่ของชาวผู้ไทย ซึ่งยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่นไว้เป็นอย่างดี อาทิ ธรรมเนียมการต้อนรับด้วยการบายศรีสู่ขวัญ การเลี้ยงอาหารแบบพาแลง การชวนดูดอุ การฟ้อนรำผู้ไทย นอกจากนี้ยังมีร้านจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึกต่างๆ ไว้บริการนักท่องเที่ยวและประชาชนจากจังหวัดใกล้เคียงอีกมากมาย โดยเฉพาะบริเวณวัดพระธาตุ เรณูนคร และตลาดอำเภอเรณูนคร

การฟ้อนผู้ไทยนับเป็นการแสดงศิลปะและวัฒนธรรมแบบพื้น เมืองอย่างหนึ่งของชาวผู้ไทยที่ได้รับการถ่ายทอดกันมาเป็นเวลาช้านาน จากบรรพบุรุษของชาวเผ่าผู้ไทย ในสมัยก่อนเรียกการฟ้อนรำแบบนี้ว่า "ฟ้อนละครไทย" เป็นการแสดงออกให้เห็นถึงความสามัคคีในหมู่คณะเดียวกัน โดยการจับกลุ่มเล่นฟ้อนรำกันอย่างสนุกสนานในงานเทศกาลเดือนห้าและเดือนหก ซึ่งจะมีประเพณีบุญบ้องไฟและมีการเฉลิมฉลองเพื่อนมัสการองค์พระธาตุเรณู ในการฟ้อนรำสมัยก่อนนั้น เป็นการฟ้อนรำตามความถนัดและความสามารถ ความชำนาญของแต่ละบุคคล ไม่ได้เน้นความเป็นระเบียบหรือความพร้อมเพรียงกัน แต่เน้นลีลาท่าฟ้อนรำต่างๆ ที่แสดงออกมา ส่วนมากเป็นผู้ชายล้วนๆ จับกลุ่มฟ้อนรำกันเพื่ออวดสาวๆ ปัจจุบันเป็นการฟ้อนรำของหญิงชายคู่กัน โดยยึดการรำแบบดั้งเดิมเป็นหลัก นับเป็นศิลปะที่สวยงามละเอียดอ่อนหาดูได้ยากยิ่งในปัจจุบัน

การฟ้อนผู้ไทย และการเลี้ยงอาหารแบบพาแลงนี้ สามารถติดต่อสอบถามขอทราบรายละเอียดได้ที่
- ส่วนราชการต่างๆ ภายในที่ว่าการอำเภอเรณูนคร โทร. (042) 511399
- ชมรมชาวผู้ไทยเรณูนคร โดยคุณชัยบดินทร์ สาลีพันธ์ โทร. (042) 511624, 511399
- วัดพระธาตุเรณูนคร
- โรงเรียนต่างๆ ในอำเภอเรณูนคร

พระธาตุเรณูนคร
ประดิษฐานอยู่ ณ บ้านเรณูนคร อำเภอเรณูนคร สร้างขึ้น พ.ศ. 2461 โดยจำลองมาจากองค์พระธาตุพนม สูง 35 เมตร กว้าง 8.37 เมตร มีซุ้มประตู 4 ด้าน ภายในเป็นโพรงบรรจุพระไตรปิฎกพระพุทธรูปทองคำภายในวัดพระธาตุเรณูนคร นอกจากมีองค์พระธาตุเรณูนครแล้ว ยังมีพระพุทธรูปพระองค์แสน น้ำหนัก 1,200 กิโลกรัม หน้าตักกว้าง 50 เซนติเมตร สูง 50 เซนติเมตร ประกอบด้วยพุทธลักษณะสวยงามมาก ประดิษฐานอยู่ในโบสถ์วัดพระธาตุเรณูนคร

พระธาตุพนม
ประดิษฐาน ณ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ในเขตอำเภอธาตุพนม ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 50 กิโลเมตร (ทางหลวงหมายเลข 212) ผลจากการขุดค้นทางโบราณคดีลงความเห็นว่าพระธาตุพนมสร้างขึ้นระหว่าง พ.ศ. 1200-1400 ภายในองค์พระธาตุบรรจุพระอุรังคธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้ ลักษณะของสถาปัตยกรรมมีแหล่งที่มาที่เดียวกันกับปราสาทของขอม และได้ทำการบูรณะเรื่อยมาในปี พ.ศ. 2485 ได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวงชั้นเอกขึ้นเป็น "วรมหาวิหาร"

ต่อมาในวันที่ 11 สิงหาคม 2518 เวลา 19.38 น. พระธาตุพนมได้ล้มทลายลงทั้งองค์ เนื่องจากความเก่าแก่ขององค์พระธาตุพนม และประจวบกับระหว่างนั้นฝนตกพายุพัดแรงติดต่อกันมาหลายวัน ประชาชนทั้งประเทศได้ร่วมบริจาคทุนทรัพย์ และรัฐบาลได้ก่อสร้างองค์พระธาตุขึ้นใหม่ตามแบบเดิม การก่อสร้างนี้เสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2522 นอกจากพระบรมสารีริกธาตุที่บรรจุในองค์พระธาตุแล้ว ยังมีของมีค่ามากมายนับหมื่นชิ้น โดยเฉพาะฉัตรทองคำบนยอดพระธาตุ มีน้ำหนักถึง 110 กิโลกรัม ปัจจุบันองค์พระธาตุมีฐานกว้างด้านละ 12.33 เมตร สูง 53.60 เมตร เป็นเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยมสูงแลดูสง่างาม งานนมัสการองค์พระธาตุเริ่มตั้งแต่วันขึ้น 12 ค่ำ ถึงวันแรม 1 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี

พระธาตุศรีคูณ
เป็นปูชนียสถานคู่บ้านคู่เมืองของชาวนาแก ตั้งอยู่ในกลางอำเภอนาแก ห่างจากอำเภอธาตุพนม ตามทางหลวงสาย 212 ประมาณ 7 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงสาย 223 ไป 20 กิโลเมตร ถึงอำเภอนาแก เลี้ยวซ้ายถึงวัดพระธาตุศรีคูณ ซึ่งเป็นที่ตั้งพระธาตุศรีคูณ มีลักษณะส่วนบนคล้ายพระธาตุพนม ต่างกันตรงที่ชั้นที่ 1 มี 2 ตอน เป็นรูปสี่เหลี่ยม ประดับลวดลายปูนปั้น และชั้นที่ 2 สั้นกว่าพระธาตุพนม

ลานสาวคอย
ตั้งอยู่บนเทือกเขาภูพาน พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นลานหินเรียบ มีต้นไม้เบญจพรรณขึ้นประปราย เมื่อขึ้นถึงลานหินนี้แล้ว สามารถมองเห็นยอดพระธาตุพนม รวมทั้งหนองหารในจังหวัดสกลนครได้เป็นอย่างดี ทั่วพื้นที่มีทิวทัศน์สวยงาม ความเป็นมาของสถานที่แห่งนี้เนื่องมาจากหนุ่มสาวชาวบ้านสมัยก่อนเวลาจะไปหา ของป่าจะนัดหมายมาคอยกันที่นี่ หรือมาเที่ยวชมความงามกันที่นี่ตลอดเวลา เลยได้ชื่อว่าลานสาวคอย

การเดินทาง ห่างจากอำเภอนาแกประมาณ 6 กิโลเมตร ถนนเป็นถนนลูกรังใช้ได้ทุกฤดูกาล รถยนต์สามารถขึ้นไปถึงบริเวณลานสาวคอยได้

เส้นทางสายท่าอุเทน-ศรีสงคราม-บ้านแพง
(ทางหลวงหมายเลข 212)

พระธาตุท่าอุเทน
ประดิษฐานอยู่ ณ บ้านท่าอุเทน รูปทรงคล้ายพระธาตุพนม สูงจากพื้นดินถึงยอด 33 วา ฐานกว้างด้านละ 6 วา 3 ศอก พระอาจารย์ศรีทัตถ์เป็นผู้สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2455 พระธาตุนี้เป็นศิลปกรรมและปูชนียสถานอันสำคัญยิ่งองค์หนึ่ง บรรจุพระธาตุของพระอรหันต์ ซึ่งพระอาจารย์ศรีทัตถ์ได้อัญเชิญมาจากเมืองร่างกุ้ง ประเทศพม่า

การเดินทางไปนมัสการพระธาตุท่าอุเทน จากตัวเมืองนครพนม ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 212 ไปยังอำเภอท่าอุเทน 26 กิโลเมตร ถึงที่ว่าการอำเภอท่าอุเทนซึ่งอยู่ใกล้วัดพระธาตุท่าอุเทน และอยู่ตรงข้ามกับเมืองหินบูรณ์ แขวงคำม่วน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (เป็นเมืองประวัติศาสตร์ของอาณาจักรศรีโคตรบูรณ์ในอดีต)

พระบางวัดไตรภูมิ
หมู่ 3 ตำบลท่าอุเทน อำเภอท่าอุเทน เป็นพระพุทธรูปยืนปางห้ามสมุทร สูง 80 นิ้ว แท่นสูง 2 นิ้วครึ่ง ฐานรูป 8 เหลี่ยม สูง 15 นิ้ว และฐานตั้งอยู่บนช้าง 8 เชือก สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2008 เป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์มาก เชื่อกันว่าถ้านำออกมาแห่จะทำให้ฝนตก เมื่อพิธีแห่สงกรานต์ต้องนำพระบางออกมาแห่ การเดินทางจากจังหวัดนครพนมไปท่าอุเทน 26 กิโลเมตร ถึงอำเภอท่าอุเทน มีรถสามล้อรับจ้างไปส่งวัดไตรภูมิมากมาย

ภูลังกา
อยู่ทางทิศตะวันตกของอำเภอบ้านแพง ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 6 กิโลเมตร การเดินทางจากตัวจังหวัดใช้เส้นทางสายนครพนม-บ้านแพง ทางหลวงสาย 212 ระยะทางประมาณ 92 กิโลเมตร ทางลาดยางตลอด ภูลังกาเป็นต้นกำเนิดของน้ำตก และลำธารใหญ่น้อยหลายสาย เป็นแหล่งอุดมสมบูรณ์ของดอกไม้ กล้วยไม้ และพรรณไม้นานาชนิด

น้ำตกตาดขาม
ใช้เส้นทางงเดียวกับทางไปภูลังกา ต้นลำธารเกิดจากเทือกเขาภูลังกา ซึ่งเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ ลำธารนี้ไหลมาบรรจบกันเกิดเป็นลำห้วยขาม เป็นน้ำตกไหลหลั่นลงมาถึง 4 ชั้น สภาพโดยรอบบริเวณร่มรื่นเหมาะแก่การไปท่องเที่ยวและพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง สภาพการเดินทางสะดวก ปัจจุบันมีถนนลาดยางเข้าไปถึงน้ำตกได้ทุกเวลา

น้ำตกตาดโพธิ์
กำเนิดจากเทืออกเขาภูลังกา อยู่ใกล้กับน้ำตกตาดขาม ห่างกันประมาณ 5 กิโลเมตร มีลักษณะสวยงามไม่น้อยกว่ากัน โดยเฉพาะในฤดูฝนสามารถมองเห็นน้ำตกนี้ได้จากทางหลวงแผ่นดินที่เลียบแม่น้ำ โขง การเดินทางอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอ 11 กิโลเมตร รถยนต์ไม่สามารถเข้าไปถึงตัวน้ำตกได้ต้องเดินขึ้นไปประมาณชั่วโมงเศษ สองข้างทางร่มรื่นเหมาะแก่การชมความงามของธรรมชาติเป็นอย่างยิ่ง

พระธาตุประสิทธิ์
ประดิษฐานอยู่ที่วัดพระธาตุประสิทธิ์ หมู่ที่ 13 ตำบลนาหว้า อำเภอนาหว้า ห่างจากอำเภอเมืองประมาณ 98 กิโลเมตร เป็นที่บรรจุพระอุรังคธาตุของพระพุทธเจ้า ประชาชนในท้องที่ใกล้เคียงเคารพนับถือมาก

การเดินทาง จากตัวเมืองนครพนม ไปตามทางหลวงหมายเลข 212 ผ่านอำเภอท่าอุเทนถึงบ้านนาขมิ้น จะมีทางหลวงหมายเลข 2032 แยกซ้ายมือเข้าอำเภอศรีสงคราม ระยะทาง 72 กิโลเมตร จากอำเภอศรีสงครามไปอำเภอนาหว้าระยะทาง 26 กิโลเมตร เป็นถนนลาดยางตามทางหลวงหมายเลข 2132 ถึงบริเวณวัด

เส้นทางสายนครพนม-สกลนคร
(ทางหลวงหมายเลข 22)

พระธาตุมหาชัย
ประดิษฐาน ณ วัดโฆษดาราม ตำบลมหาชัย อำเภอปลาปาก ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 40 กิโลเมตร ตามเส้นทางนครพนม-สกลนคร ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 22 แล้วแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 2276 เข้าวัดอีก 1.8 กิโลเมตร ถนนคอนกรีตถึงบริเวณวัดพระธาตุมหาชัย เป็นปูชนียสถานที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่ง เพราะเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันต์สารีริกธาตุ ภายในพระอุโบสถวัดโฆษดารามนอกจากพระประธานคือ พระพุทธไชยสิทธิ์แล้วยังมีพระพุทธรูปสลักจากไม้ต้นสะเดาหวานที่ใหญ่ที่สุดใน ประเทศไทย และภาพเขียนบนฝาผนังอุโบสถแสดงพุทธประวัติ มีลวดลายศิลปกรรมที่งดงามหาดูได้ยากยิ่งในภาคอีสาน

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระ บรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ที่พระธาตุ มหาชัย เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2518 ซึ่งตรงกับขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 อันเป็นวันวิสาขบูชา และที่วัดโฆษดารามนี้ยังเป็นที่จำพรรษาของท่านพระครูสุนทรธรรมโฆษิต (หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ) พระเกจิอาจารย์สายวิปัสนาที่สำคัญองค์หนึ่ง ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวนครพนมและชาวอีสานทั่วไป


หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ :

ท่าอากาศยานนครพนม โทร. 0 4251 3264
บริษัทการบินไทย จำกัด มหาชน โทร. 0 4251 2494, 0 4251 3014
ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม โทร. 0 4251 1730, 0 4252 0797
สำนักงานจังหวัดนครพนม โทร. 0 4251 1287, 0 4251 1574
สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมือง โทร. 0 4251 1266, 0 4251 5680,0 4251 2469

0 ความคิดเห็น: