00:22

จังหวัดเลย

เมืองแห่งทะเลภูเขา สุดหนาวในสยาม ดอกไม้งามสามฤดู

http://pics.manager.co.th/Images/551000013516406.JPEG

จังหวัดเลยเมืองท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่โอบล้อมด้วยภูเขาสลับซับซ้อนท่าม กลางสายหมอกปกคลุมเหนือยอดภู อุดมไปด้วยพืชพรรณป่าไม้นานาชนิดที่รู้จักกันดีคือ ภูกระดึง ภูหลวงและภูเรือ อากาศอันเย็นสบาย ภูมิประเทศที่งดงาม ประเพณีวัฒนธรรมอันแตกต่างไปจากถิ่นอื่นซึ่งได้แก่การละเล่นผีตาโขน ที่รอคอยนักเดินทางมาสัมผัสเมือแห่งขุนเขาดินแดนมหัศจรรย์แห่งนี้

อาณาเขตและการปกครอง :

เลยอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 520 กิโลเมตร มีพื้นที่ 11,424 ตารางกิโลเมตร เป็นจังหวัดชายแดน ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนบน ริมฝั่งแม่น้ำโขง ในอดีตนั้น เป็นเพียงชุมชนเล็กๆ ของอาณาจักร ที่มีความรุ่งเรือง ควบคู่กับกรุงศรีอยุธยา ของไทย ภายหลังอาณาจักรล้านช้าง เริ่มอ่อนแอลง จึงมาขึ้นอยู่กับ กรุงศรีอยุธยา ต่อมาชุมชนนี้ ได้รับการยกฐานะ เป็นเมืองเลย ในสมัยพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จังหวัดเลย แบ่งการปกครอง ออกเป็น 14 อำเภอ คือ อำเภอเมืองเลย วังสะพุง ปากชม เชียงคาน ท่าลี่ ภูเรือ ด่านซ้าย ภูกระดึง นาแห้ว นาด้วง ภูหลวง ผาขาว อำเภอเอราวัณ และ อำเภอหนองหิน

ทิศเหนือ ติดกับประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
ทิศใต้ ติดกับจังหวัดขอนแก่น
ทิศตะวันออก ติดกับจังหวัดหนองคาย และจังหวัดหนองบัวลำภู
ทิศตะวันตก ติดกับจังหวัดพิษณุโลก

การเดินทาง :

ทางรถยนต์

จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) ผ่านตัวเมืองสระบุรี ตรงเข้าทางหลวงหมายเลข 21 ผ่านจังหวัดเพชรบูรณ์ ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 203 ผ่านอำเภอหล่มสัก หล่มเก่า เข้าเขตจังหวัดเลยที่อำเภอด่านซ้าย อำเภอภูเรือ ถึงตัวเมืองเลยใช้เวลาเดินทางประมาณ 7-8 ชั่วโมง หรือ จากสระบุรี ใช้ทางหลวงหมายเลข 2 มิตรภาพ ผ่านจังหวัดนครราชสีมา ถึงจังหวัดขอนแก่น แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 12 ผ่านอำเภอชุมแพ แล้วใช้เส้นทางหมายเลข 201 เข้าเขตจังหวัดเลยที่อำเภอภูกระดึง อำเภอวังสะพุง ถึงตัวเมืองเลยได้เช่นเดียวกัน

ทางรถไฟ

จังหวัดเลยไม่มีสถานีรถไฟ นักท่องเที่ยวต้องเดินทางไปลงที่สถานีอุดรธานีและต่อรถโดยสารประจำทางไป จังหวัดเลยได้ สอบถามตารางรถไฟได้ที่ หน่วยบริการเดินทาง การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร.1690, 0 2233 7010, 0 2223 7020 หรือ สถานีอุดรธานี โทร. 0 4222 2061 www.railway.co.th

ทางรถโดยสารประจำทาง

บริษัท ขนส่ง จำกัด มีรถโดยสารประจำทางวิ่งระหว่างกรุงเทพฯ-เลย ทุกวัน ทั้งรถธรรมดาและรถปรับอากาศ ใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง รายละเอียดสอบถามที่สถานีขนส่ง หมอชิต 2 โทร.0 2936 2852-66 www.transport.co.th

ทางเครื่องบิน

สายการบินนกแอร์เปิดบริการเที่ยวบินระหว่างกรุงเทพฯ-เลย สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 1318 www.nokair.co.th

ระยะทางจากตัวเมืองไปยังอำเภอ และกิ่งอำเภอต่าง ๆ

อำเภอวังสะพุง 23 กิโลเมตร
อำเภอนาด้วง 32 กิโลเมตร
อำเภอเชียงคาน 47 กิโลเมตร
อำเภอท่าลี่ 47 กิโลเมตร
อำเภอภูหลวง 49 กิโลเมตร
อำเภอภูเรือ 50 กิโลเมตร
อำเภอผาขาว 70 กิโลเมตร
อำเภอภูกระดึง 73 กิโลเมตร
อำเภอด่านซ้าย 82 กิโลเมตร
อำเภอปากชม 90 กิโลเมตร
อำเภอนาแห้ว 125 กิโลเมตร
อำเภอเอราวัณ 50 กิโลเมตร



ที่เที่ยว
อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
ข้อมูลทั่วไป :

.."อีสานเหนือ" แผ่นดินที่เต็มไปด้วยเทือกเขาสลับซับซ้อน อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติป่าไม้มากมาย เป็นดินแดนเดียวที่มีความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ ด้วยว่าเทือกเขาอันยาวเหยียดนั้นเป็นแนวขุนเขาที่มีสัณฐาน ยอดตัดเรียบเกือบทุกลูกอย่างไม่น่าเชื่อ นับตั้งแต่ทิวเขาใหญ่ ภูเขียว ภูผาจิต ภูหอ เรื่อยไปจนกระทั่งถึง ภูหลวง โดยเฉพาะที่ "ภูกระดึง" จะมีสัณฐานบนยอดเขาตัดเรียบมากที่สุด"

อุทยานแห่งชาติภูกระดึง มีพื้นที่ครอบคลุม อยู่ในท้องที่ อ. ภูกระดึง จ. เลย ประกอบด้วย ภูเขาที่มีธรรมชาติ สวยงามมาก ที่ราบยอดภูกระดึง เป็นสังคมของพืชเมืองหนาว

การเดินทาง :

รถยนต์
จากเส้นทางหลวงหมายเลข 201 แยกซ้ายเข้าเส้นทางหลวงหมายเลข 2019 บริเวณกม.ที่ 276 ประมาณ 8 กม. ก็จะถึงที่ทำการอุทยานฯ

รถโดยสารประจำทาง
ลงรถที่บ้านผานกเค้า จ. เลย ติดต่อรถสองแถวเข้าไปที่ทำการอุทยานฯ ที่ร้านเจ๊กิม หรือลงรถที่ แยกภูกระดึง แล้วนั่งรถสองแถวประจำทาง เข้าไปยังที่ทำการอุทยานฯ

รถไฟ
จากสถานีขอนแก่น นั่งรถประจำทาง มาที่ผานกเค้า แล้วใช้วิธีเดียวกับ การเดินทาง โดยรถโดยสารประจำทาง

เครื่องบิน
ขึ้นเครื่องบินไปลงที่ขอนแก่น แล้วโดยสารรถต่อไปยังที่ทำการอุทยานฯ

สิ่งอำนวยความสะดวก :

อุทยานแห่งชาติภูกระดึง มีบ้านพัก สำหรับนักท่องเที่ยว จำนวน 6 หลัง ค่ายพัก 2 หลัง และเต้นท์ 300 หลัง นักท่องเที่ยว สามารถนำเต้นท์ ขึ้นไปเองได้ โดยกางเต้นท์ ในบริเวณที่กำหนดให้เท่านั้น เสียค่าธรรมเนียม คนละ 5 บาท

สำหรับอาหาร และเครื่องดื่ม มีบริการขาย ที่บริเวณอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ในฤดูกาลท่องเที่ยว จะมีร้านค้า หลายร้านบนยอดภู

ติดต่อสอบถามรายละเอียด และสำรองที่พักได้ที่กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ เขตจตุจักร กรุงเทพ 10900 โทร. 579-5734 , 579-7223 หรือที่ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ม.1 ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย 42180

ถ้าจะเดินทางต่อไปท่องเที่ยวในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว หรือเทศกาลต่างๆ ควรจองบ้านพักล่วงหน้า ประมาณ 1 เดือน (ข้อมูลจากเอกสาร ประกอบการท่องเที่ยว ของส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักอนุรักษ์ทรัพยากร ธรรมชาติ กรมป่าไม้)

ลักษณะภูมิประเทศ :

เป็นภูเขาหินทราย ที่มีพื้นที่ราบกว้างใหญ่ สลับกับเนินเตี้ยๆ ยอดภูกระดึงประกอบไปด้วย ป่าสนสลับป่าก่อ และทุ่งหญ้า มีพันธุ์ไม้ดอก ไม้ใบขึ้นอยู่ทั่วไปตามบริเวณน้ำตก ลำธาร และลานหิน

ลักษณะภูมิอากาศ :

เย็นสบายตลอดปี อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 15 องศาเซลเซียส ในฤดูหนาวอากาศ หนาวเย็นมาก จนบางครั้งอุณหภูมิลดต่ำลงถึง 0 องศาเซลเซียส ช่วงฤดูฝน อากาศแปรปรวนบ่อยครั้ง มีหมอก และเมฆฝนลอยต่ำ ฝนตกชุก ทำให้เกิดภัยธรรมชาติบางประการเช่น ดินถล่มตามหน้าผาสูงชัน และน้ำป่าไหลรุนแรง ตามลำธารเชิงเขา

พันธุ์ไม้และสัตว์ป่า :

มีหลายชนิด เช่น ป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ ป่าดงดิบเขา ป่าดิบแล้ง และป่าสนเขา มีพันธุ์ ไม้ดอกที่สวยงามออกดอกบานสะพรั่ง สลับกันไปในแต่ละฤดูกาล

เนื่องจากภูมิประเทศประกอบไปด้วยป่าไม้ ทุ่งหญ้า และลำธาร เป็นแหล่งอาหารที่สมบูรณ์ จึงมีสัตว์ป่า และนกหลายชนิด นอกจากนี้ ยังมีเต่าหายาก คือ "เต่าปูลู" หรือ "เต่าหาง" ซึ่งเป็นเต่าที่มีหางยาว อยู่ตามลำธารในป่า เขาระดับสูงของประเทศไทย กัมพูชา และลาว

อุทยานแห่งชาตินาแห้ว

ข้อมูลทั่วไป :

อุทยานแห่งชาตินาแห้ว ตั้งอยู่ในเขต อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย ครอบคลุมพื้นที่ 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลนาแห้ว ตำบลแสงภา ตำบลเหล่ากอหอ อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย มีเนื้อที่ 73,225 ไร่ หรือ 117.16 ตารางกิโลเมตร ด้วยสภาพขุนเขาที่สูงสลับซับซ้อนกันในพื้นที่ อำเภอนาแห้ว ประกอบกับเป็นผืนป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ สภาพป่าโดยส่วนใหญ่เป็นป่าดิบชื้น ซึ่งมีที่ราบน้อย จุดที่สูงที่สุดประมาณ 1,408 เมตร จากระดับน้ำทะเล สภาพอากาศค่อนข้างเย็นสบายตลอดปี เนื่องจากความสมบูรณ์ของป่าธรรมชาติซึ่งมีพันธุ์ไม้อยู่หนาแน่น ในช่วงที่อากาศค่อนข้างหนาวเย็น

การเดินทาง :

สามารถเดินทางได้ 3 เส้นทาง คือ

1.จากกรุงเทพฯ สู่จังหวัดเลย และเดินทางจากจังหวัดเลยโดยใช้เส้นทางหมายเลข 203 ระยะทาง 68 กิโลเมตร ถึงทางแยกบ้าน โคกงานเลี้ยมตามเส้นทางหมายเลข 2031ระยะทาง 12 กิโลเมตร ถึงอำเภอนาแห้วด่านซ้าย เลี้ยวขวาตามเส้นทางหมายเลข 2113 ไปอีก 32 กิโลเมตร ถึงอำเภอนาแห้ว จากอำเภอนาแห้วเดินทางต่ออีก 4 กิโลเมตร ถึงบ้านเหมือนแพร่ เลี้ยวซ้ายตามเส้นทางหมายเลข 1268 ผ่านตำบลแสงภา และเลี้ยวขวาทางหมายเลข 1268 หลักกิโลเมตรที่ 0 อีกประมาณ 3 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาตินาแห้ว

2.จากกรุงเทพฯ สู่อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ และเดินทางจากอำเภอหล่มสัก ใช้ เส้นทางหมายเลข 203 จนถึงบ้าน โป่งชีเลี้ยวซ้ายตามเส้นทางหมายเลข 2014 ถึงอำเภอด่าน ซ้าย เลี้ยวซ้ายตามเส้นทางหมายเลข 2113 ไปอีก 32 กิโลเมตร ถึงอำเภอนาแห้วเดินทางต่ออีก 4 กิโลเมตร ถึงบ้านเมืองแพร่ เลี้ยวซ้ายตามเส้นทางหมายเลข 1268 ผ่านตำบลแสงภา และ เลี้ยวขวาตามทางแยกบนทางหลวงหมายเลข 1268 หลักกิโลเมตรที่ 0 อีกประมาณ 3 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาตินาแห้ว

3.จากจังหวัดพิษณุโลก-อำเภอชาติตระการ-บ้านบ่อภาค ถึงกิโลเมตรที่ 50 เลี้ยวขวาเข้า เส้นทางหมายเลข 1268 ผ่านบ้านร่มเกล้า ผ่านตำบลเหล่ากอหอ ถึงหลักกิโลเมตรที่ 0 อีกประ มาณ 3 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาตินาแห้ว


สิ่งอำนวยความสะดวก :

1.บ้านพัก อุทยานแห่งชาตินาแห้ว ได้จัดสร้างบ้านพักสำหรับนักท่องเที่ยว จำนวน 4 หลัง ประกอบด้วย บ้านทบกอสอด บ้านอิงดอย บ้านเพียงดิน บ้านชมดาว

2.ค่ายพัก มีค่ายพัก จำนวน 1 หลัง

3.อาคารสำหรับประชุมสัมมนาไม่เกิน 50 คน จำนวน 1 หลัง

4.อุทยานแห่งชาตินาแห้ว สนับสนุนให้มีการพักแรมในลักษณะ บ้านพักผู้มาเยือนในหมู่บ้าน ห้วยน้ำผัก บ้านบ่อเหมืองน้อย และหมู่บ้านอื่นๆ ที่อยู่รอบอุทยานฯ

สำหรับบ้านพักและค่ายพักยังไม่มีเครื่องนอน ผู้มีความสนใจที่จะเข้าพักจำเป็นต้องจัดหา เครื่องนอนมาเอง

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้โดยตรง ที่ อุทยานแห่งชาตินาแห้ว ตำบลแสงภา อำเภอ นาแห้ว จังหวัดเลย 42170 โทร.042-819340 หรือ ที่ว่าการอำเภอนาแห้ว อำเภอนาแห้ว จังหวัด เลย โทร.042-897020 หรือ ส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ กรมป่าไม้ กรุงเทพฯ โทร. 5797223 , 5795734 หรือ 5614292-4 ต่อ 724-725

ลักษณะภูมิประเทศ :

เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน สันเขามีลักษณะเป็นที่ราบสูง มีความลาดเท ตั้งแต่ 2% จนถึงมากกว่า 50% ด้านตะวันตกซึ่งเป็นพื้นที่ป่าผืนใหญ่ จะมีความลาดชันมาก พื้นที่ราบเชิงเขาเกือบจะไม่มี ด้านตะวันออกจะมีความลาดชันน้อย ลาดเทลงไปทางด้านตะวันออก มีที่ราบเชิงเขาอยู่บ้าง พื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ตั้ง 600-1,408 เมตร

พันธุ์ไม้และสัตว์ป่า :

อุทยานแห่งชาตินาแห้ว มีสัตว์ป่ามากมายหลายชนิด มีสัตว์ป่าเลี้ยงลูกด้วยนม ได้แก่ เลียงผา เก้ง กวาง กระจง หมูป่า หมี เสือโคร่ง หมาใน อีเห็น ควายป่า บ่าง กระรอก ในป่านี้มีสัตว์ชนิดหนึ่ง ชาวบ้านเรียกว่า “ตัวหอน” มีลักษณะคล้ายเม่น อยู่เป็นกลุ่ม หากินกลางคืน อาศัยตามลืบหิน โพรงหิน ไม่ขุดรูอยู่ด้วยตนเองเหมือนเม่น

นก ประกอบด้วย นกเหยี่ยว นกกระจิบ นกโพระดก นกกาเหว่า ไก่ป่า ไก่ฟ้า นกเขว้าปัง นกเคว้าโคก นกกก นกแซงแซว เป็นต้น และมีนกชนิดหนึ่งเรียกว่า “นกกองกอด” ลักษณะเด่น คือ มีเขาที่เดือยมากกว่า 1 เดือย หางคล้ายนกยูง

สัตว์เลื้อยคลาน มีเต่าปูลู กิ้งก่า กะท่าง แย้ จิ้งเหลน ตะกวด แลน และงูชนิดต่างๆ มีทั้งพิษและไม่มีพิษ ประเภทงูพบมากในป่าเบญจพรรณ

ปลา พบในลำน้ำเหงือกและแม้แต่ลำห้วยเล็กๆ ก็มีปลาน้ำจืดอาศัยอยู่ในลำห้วย มีพวกปลาประเภทที่มีเกล็ด เช่น ตะเพียน ปลากระสูบ ปลาช่อน ปลาซิว และปลาขนาดเล็กอื่นๆ ปลาไม่มีเกล็ด คือ ปลาไหล ปลาหลด ไม่มีปลาขนาดใหญ่

จุดเด่นที่น่าสนใจ :

น้ำตกคิ้ง
อยู่ในลำน้ำแพร่มีลักษณะเป็นแกงหินลดหลั่นกันลงมา 2-3 ชั้น ตั้งอยู่ริมทางหลวงสายแสงภาเหล่ากอ จุดนี้ทางราชการได้ก่อสร้างเรือนประทับถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ซึ่งเสด็จเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2543

น้ำตกช้างตก
อยู่เหนือน้ำตกคิ้งขึ้นไปประมาณ 500 เมตร อยู่ในลำน้ำแพร่เช่นกัน แต่มีความลาดชันมากกว่า

น้ำตกวังตาด
อยู่เหนือน้ำตกช้างตก ขึ้นไปประมาณ 1.5 กิโลเมตร อยู่ในลำน้ำแพร่เช่นกัน

น้ำตกตาดเหือง
อยู่ในลำน้ำเหือง ลดหลั่นกัน 3 ชั้น สูงประมาณ 50เมตร มีน้ำไหลตลอดปี สภาพป่าบริเวณรอบๆ ร่มรื่นดีมาก เหมาะสำหรับการพักผ่อน เป็นน้ำตกแบ่งเขตพรมแดนระหว่าง ไทย-ลาว

น้ำตกตาดผา
เป็นน้ำตกสูงประมาณ 60 เมตร ลดหลั่นกันเป็นชั้นซึ่งอยู่ใกล้บ้านแสงภา

น้ำตกผาค้อ
อยู่ในลำน้ำเหือง ใช้ลำน้ำเหงือง ใช้ลำน้ำนี้เป็นเส้นแบ่งเจตพรมแดน ระหว่างไทย ลาว สภาโดยทั่วไป รอบพื้นที่น้ำตกมีต้นไม้ ที่สมบูรณ์ อากาศร่มรื่นดีมาก เหมาะแก่การพักผ่อนอย่างแท้จริง

หินสี่ทิศ
อยู่บนเทือกเขาภูตีนสวนทราย ด้านทิศใต้จะมีหินอยู่ 4 ก้อน โผ่ลขึ้นกลางป่าดงดิบ เป็นเสมือนประตูภูตีนสวยทราย ชาวบ้านขึ้นสักการะทุก 3 ปี ภาษาชาวบ้านเรียกว่า 2 ปี หาม3 ปีครอบ คือ ขึ้น ไปทำบุญ 1 ครั้ง แล้วเว้นไปอีก 2 ปี ขึ้นไปสักการะอีก เรียกว่า บุญภูใหญ่หรือ บุญสวนเมี่ยง จะทำปลายเดือน 3 ต้นเดือน 4 ไม่กำหนดวันที่แน่นอน

หินก่วยหล่อ
อยู่บนภูตีนสวนทรายเป็นหินทรายรูปร่างคล้ายดอกเห็ดตูมก้อนเดียวโผลขึ้น มากลางป่าดงดิบ ความโตโดยรอบประมาณ 19 เมตร สูงประมาณ 4 เมตร รอบ ๆ หินทีร่องรอยเหมือนมีคนมาขุดเป็นร่องน้ำไว้ แต่โดยความจริงธรรมชาติเป็นผู้สร้างขึ้นมาเอง

จุดชมวิว เนิน 1408
เมืองมองลงไปทิศตะวันออก และทางทิศตะวันออกเฉียงใต้จะเห็น บ้านบ่อเหมือนน้อย ทิวทัศน์ของป่าเต็งรังบ้านแสงภา อำเภอนาแห้ว จุดนี้หากขึ้นไปรอดูพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าจะสวยงามมาก บริเวณนี้เป็นที่ราบสันเขายาวเหมาะที่จะเดินยิ่งนักนับว่าเป็นใจกลางของ อุทยานแห่งชาตินาแห้วอย่างแท้จริง

จุดชมวิว เนิน 1205
เป็นจุดชมวิวในระยะใกล้ จะเห็นบ้านห้วยน้ำผักอยุ่ด้านล่างและเห็นวิวภูสอยดาว ภูเวียงในประเทศลาว เป็นวิวทางด้านทิศเหนือจะเห็นภูเขาสลัลซับซ้อนกันสุดสายตา ที่จุดชมวิวมีลมพัดตลอดเย็นสบายมาก


อุทยานแห่งชาติภูเรือ

ข้อมูลทั่วไป :

"จากตัวจังหวัดเลย ใช้เส้นทางสายเลย-ด่านซ้าย ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร ก็มาถึงอำเภอภูเรือ ซึ่งที่ตัวอำเภอนี้เองจะมองเห็นรูปพรรณสัณฐานของภูเรือว่าเป็นรูปเรือสำเภา คว่ำ ภูเรือมีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,365 เมตรจากระดับน้ำทะเล สูงกว่าภูกระดึง แต่การขึ้นยอดภูเรือง่ายกว่าหลายเท่านัก หากมีรถขับเคลื่อนกำลังดีๆ ก็สามารถขับขึ้นไปบนยอดเขาได้เลย หรือหากจะเดินขึ้นระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตรใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง"

อุทยานแห่งชาติภูเรือมีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่ ตำบลอาฮี ตำบลท่าลี่ อำเภอท่าลี่ และตำบลลาดค่าง ตำบลหนองบัว ตำบลร่องจิก อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย ครอบคลุมเนื้อที่ประมาณ 75,525 ไร่ หรือประมาณ 120.84 ตารางกิโลเมตร ก่อตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อเดือนธันวาคม 2521 นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 16 ของประเทศ

การเดินทาง :

อุทยานแห่งชาติภูเรือ อยู่ห่างจากจังหวัดเลยประมาณ 52 กิโลเมตร ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 203 ระยะทางประมาณ 48 กิโลเมตรจนถึงตัวอำเภอภูเรือ ข้างที่ว่าการอำเภอภูเรือมีทางแยกขวาเข้าไปยังที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ประมาณ 4 กิโลเมตร และถึงยอดภูเรืออีก 4.8 กิโลเมตร

สิ่งอำนวยความสะดวก :

อุทยานแห่งชาติภูเรือ ได้จัดสร้างบ้านพักไว้สำหรับบริการนักท่องเที่ยว จำนวน 6 หลัง ติดต่อได้ที่อุทยานแห่งชาติภูเรือ อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย 42000

หรือที่ส่วนอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ จตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทร. 579-5734 ,579-7223

ลักษณะภูมิประเทศ :

สภาพพื้นที่โดยทั่วไป เป็นทิวเขาสูงสลับซับซ้อน ประกอบด้วยเขาหินทรายเป็นส่วนใหญ่ และเป็นหินแกรนิตสลับกันไป ลักษณะเช่นนี้จึงทำให้มีที่ราบสูงสลับกับยอดเขาสูงทั่วๆไป พื้นที่มีความลาดจากทิศเหนือไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ นอกจากยอดภูเรือที่สูงที่สุดแล้ว ยังมียอดเขาที่สำคัญอีกเช่น ยอดภูสน มีความสูง 1,035 เมตรจากระดับน้ำทะเล ยอดภูกุ มีความสูง 1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล

อุทยานแห่งชาติภูเรือมีสายน้ำสำคัญหลายสายไหลผ่าน เช่น ห้วยไผ่ ห้วยทรายขาว ห้วยหินราช ห้วยบง และห้วยเถียงนา ห้วยเหล่านี้จะมีน้ำไหลตลอดทั้งปี และจะไหลไปรวมกันที่น้ำสาน จากนั้นจะไหลลงสู่แม่น้ำเหืองซึ่งเป็นแม่น้ำที่กั้นพรมแดนระหว่างไทยกับลาว บริเวณบ้านติ้วและบ้านลาด

ลักษณะภูมิอากาศ :

จากการที่อุทยานแห่งชาติแห่งนี้ ประกอบด้วยยอดเขาสูง จึงทำให้มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวอากาศเย็นมาก จนกระทั่งน้ำค้างบนยอดหญ้าแข็งตัวกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็ง ซึ่งภาษาพื้นเมืองเรียกว่า "แม่คะนิ้ง"

พันธุ์ไม้และสัตว์ป่า :

ชนิดของป่าประกอบด้วย ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ป่าดงดิบชื้น ป่าดงดิบเขา โดยเฉพาะบริเวณยอดภูเรือจะพบป่าสนเขาสลับกับสวนหิน และลานหินธรรมชาติสลับด้วยทุ่งหญ้าเป็นระยะๆ ไม้พื้นล่างที่พบโดยทั่วไปได้แก่ กุหลาบแดง กุหลาบขาว ดาวเรืองภู มอส เฟิร์น และกล้วยไม้ป่านานาชนิดที่สวยงาม เช่น ม้าวิ่ง สามปอย ไอยเรศ เอื้องคำ เอื้องผึ้ง เอื้องเงิน ซึ่งจะออกดอกบานสะพรั่งให้ชมสลับกันไปตลอดทั้งปี

สัตว์ป่าที่พบ เช่น หมี เก้ง กวาง หมูป่า หมาไน ลิง พญากระรอกดำ ไก่ฟ้าพญาลอ กระต่ายป่า เต่าปูลู เต่าเดือย และนกชนิดต่างๆที่สวยงามอีกมากมาย โดยเฉพาะในฤดูหนาวจะมีนกอพยพมาจากประเทศจีนเป็นจำนวนมาก

จุดเด่นที่น่าสนใจ :

เขาโหล่นน้อย
เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น สามารถมองเห็นภูหลวง ภูผาสาด ภูครั่งและทะเลภูเขา เขาโหล่นน้อยอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯประมาณ 3 กิโลเมตร

น้ำตกห้วยไผ่
เป็นน้ำตกสูงชัน สูงประมาณ 30 เมตร สายน้ำพุ่งแรง อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นแหล่งน้ำที่สำคัญและมีประโยชน์ในการทำน้ำประปาในเขตอำเภอภูเรือ

ยอดภูเรือ
เป็นจุดที่สูงที่สุดในเขตอุทยานแห่งชาติฯ สูงประมาณ 1,365 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ลักษณะบริเวณหน้าผาของยอดภูเรือนี้สูงชัน จากจุดนี้จึงทำให้มองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามได้รอบด้าน โดยเฉพาะในช่วงที่ท้องฟ้าแจ่มใสจะมองเห็นแม่น้ำเหือง และแม่น้ำโขง ซึ่งกั้นพรมแดนระหว่างไทย-ลาวได้อย่างชัดเจน

ผาซำทองหรือผากุหลาบขาว
เป็นหน้าผาสูงชันและเป็นแหล่งน้ำซับ มีไลเคนส์สีเหลืองคล้ายสีทอง จึงเรียกว่า"ผาซำทอง" ผาแห่งนี้อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯประมาณ 2.5 กิโลเมตร

นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นที่สวยงามอีกหลายแห่ง เช่น ถ้ำหินแตก หินค้างหม้อ หินวัวนอน ทุ่งหินพานขันหมาก หินพระศิวะ สวนหินเต่า ศาลารับเสด็จ ลาดเหมือดแอ ลานสาวเอ้ สวนหินพาลี ทุ่งหินเหล็กไฟ สระสวรรค์ตามตำนานรักภูทุ่ง(ภูเรือ) และภูสวรรค์ เป็นต้น

สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ

สถานที่น่าสนใจ ในเขตอำเภอเมือง

ศาลเจ้าพ่อกุดป่อง
ตั้งอยู่ห่างจากหอนาฬิกาประมาณ 50 เมตร อยู่ติดกับศาลหลักเมือง เป็นศาลเก่าแก่ และมีประชาชนเคารพนับถือมากแห่งหนึ่ง

สวนสาธารณะกุดป่อง
ตั้งอยู่ด้านหลังศาลเจ้าพ่อกุดป่อง มีคูน้ำล้อมรอบ ภายในสวนสาธารณะตกแต่งด้วยไม้ดอกไม้ประดับต่าง ๆ อย่างสวยงาม ดูร่มรื่นและเป็นระเบียบ ประชาชนใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังกาย

สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติฯ ป่าเลิงใหญ่
เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ มีการจัดสวนไม้ดอกไม้ประดับ เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ โดยพื้นที่รอบสวนสาธารณะเป็นแม่น้ำเลย ตั้งอยู่ตรงข้ามด้านหน้าเทศบาลเมืองเลย ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินผ่านสะพานแขวนเข้าไปเที่ยวชมได้อย่างสะดวกสบาย

สถานที่น่าสนใจ ในเขตอำเภอเชียงคาน

วัดศรีคุณเมือง
ตั้งอยู่ที่ซอย 7 ถนนชายโขง ทางด้านเหนือของตลาดเชียงคาน มีกำแพงแก้วล้อมรอบตัวพระอุโบสถ สร้างในแบบแปลกตา รูปร่างคล้ายโบสถ์ตามวัดภาคเหนือ ด้านหน้าโบสถ์มีภาพจิตรกรรฝาผนังอยู่เต็มหน้าบัน ภาพทั้งหมดเป็นภาพนิทานชาดกชุดพระเจ้าสิบชาติ

วัดท่าแขก
เป็นวัดเก่าแก่โบราณ อยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ห่างจากอำเภอเชียงคาน 2 กิโลเมตร ก่อนถึงหมู่บ้านน้อยและแก่งคุดคู้ปัจจุบันเป็นวัดธรรมยุติ ภายในโบสถ์มีพระพุทธรูป 3 องค์ สกัดจากหินแกรนิตทั้งก้อน หน้าตักกว้าง 2 ศอก เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์มาก

พระพุทธบาทภูควายเงิน
ตั้งอยู่ที่บ้านอุมุง ตำบลบุฮม ตามเส้นทางสายเชียงคาน-ปากชม ระยะทาง 6 กิโลเมตร ถึงหมู่บ้านผาแบ่นมีทางแยกเข้าบ้านอุมุง 3 กิโลเมตร จะถึงทางขึ้นเขาเป็นทางลูกรังระยะทาง 1 กิโลเมตร เป็นรอยพระพุทธบาทที่ตั้งอยู่บนหินลับพร้า (หินลับมีด) ประชาชนเคารพนับถือมาก จะมีงานเทศกาลประจำปีในวันเพ็ญเดือน 3 หรือเดือน 4 ของทุกปี

แก่งคุดคู้
เป็นแก่งหินใหญ่ขวางอยู่กลางลำน้ำโขง ห่างจากตัวอำเภอเชียงคานประมาณ 3 กิโลเมตร ประกอบด้วยหินก้อนใหญ่ ๆ เป็นจำนวนมากจากการที่หินเหล่านี้อยู่ใต้น้ำเป็นเวลานาน ทำให้หินเหล่านี้มีสีสันไปต่าง ๆ ตัวแก่ง กว้างใหญ่เกือบจรดสองฝั่งแม่น้ำโขง มีกระแสน้ำไหลผ่านไปเพียงช่องแคบ ๆ ใกล้ฝั่งไทยเท่านั้นเอง ซึ่งกระแสน้ำเชี่ยวกราก เวลาที่เหมาะจะชมแก่งคุดคู้ที่สุดคือ เดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นเวลาที่น้ำแห้ง มองเห็นเกาะแก่งชัดเจน บริเวณแก่ง มีร้านอาหารจำหน่ายมากมาย

สถานที่น่าสนใจ ในเขตอำเภอวังสะพุง

พระพุทธบาทถ้ำผาบิ้ง
ตั้งอยู่บริเวณวัดถ้ำผา บิ้ง บ้านผาบิ้ง ตำบลนาแก กรมศิลปากรจดทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งแรกของจังหวัดเลยพร้อมกับพระธาตุศรี สองรัก เมื่อ พ.ศ. 2498 เมื่อนักท่องเที่ยวเดินเข้าไปในถ้ำจะมองเห็น พระพุทธบาทขนาดใหญ่อยู่บนเพดานถ้ำ ลวดลายและนิ้วพระบาทไม่ปรากฏเด่นชัด ขนาดกว้าง 2 ฟุต ยาว 3 ฟุต

การเดินทางใช้เส้นทางสาย 201 (อำเภอเมือง-วังสะพุง) แล้วเลี้ยวขวาตรงระหว่างกิโลเมตรที่ 323-324 เข้าไปตามทางอีก 7 กิโลเมตร จะเห็นวัดอยู่ทางขวามือ ห่างจากอำเภอวังสะพุง ประมาณ 9 กิโลเมตร

พระเจดีย์วัดป่าสัมมานุสรณ์
วัดป่าสัมมานุสรณ์ บ้านโคกมน ตำบลผาน้อย ตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการวังสะพุงไปตามถนนราดยางสายอำเภอวังสะพุง-อุดรธานี ถึงสี่แยกโรงเรียนบ้านวังไท แยกซ้ายไปตามถนน รพช. อีก 9 กิโลเมตร รวมระยะทางจากอำเภอถึงวัด 19 กิโลเมตร

พระเจดีย์วัดป่าสัมมานุสรณ์
สร้างตามแบบของกรมศิลปากรขนาดฐานองค์พระเจดีย์กว้างยาวด้านละ 25 เมตร สูง 33 เมตร ก่อสร้างด้วยโครงเหล็ก ก่ออิฐถือปูนและเคลือบด้วยกระเบื้องอย่างดี วัดป่าสัมมานุสรณ์นี้ เป็นวัดป่าวิปัสสนากัมมัฏฐาน สายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต

เสมาหินทรายที่บ้านปากเป่งและบ้านนาหลัก
บ้านปากเป่งและบ้านนาหลัก ตำบลวังสะพุงอยู่ห่างกัน 4 กิโลเมตร โดยบ้านนาหลัก ตั้งอยู่ทางทิศเหนือ และบ้านปากเป่งอยู่ทางทิศใต้ ทั้งสองแห่งเป็นหมู่บ้านเก่าแก่มานาน ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเลย ปัจจุบันคือหมู่บ้านในตัวอำเภอวังสะพุง ใบเสมาบ้านปากเป่งพบครั้งแรกเมื่อปลายปี พ.ศ. 2508

ลักษณะใบเสมามีลวดลายสลักรูปบัวบนฐาน แบบที่มีรูปพระสถูปเจดีย์ประทับอยู่ตรงกลางแผ่นเสมา โดยส่วนบนมีลักษณะรูปกรวยคล้ายกับยอดเจดีย์ที่พบในดินแดนอีสานทั่วไป

ที่บ้านนาหลัก เป็นเสมาหินปักคู่สองหลัก แบบที่มีคู่สลักนูนขึ้นไปจากยอดเสมา เป็นรูปคล้าย ๆ กับสถูปเท่านั้น โดยไม่มีลวดลายใด ๆ และปี พ.ศ. 2519 พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่ขอนแก่นได้นำไปเก็บรักษาไว้ 1 หลัก จึงเหลือไว้ในสถานที่เดิมเพียง 1 หลักเท่านั้น

กลุ่มเสมาหินที่พบในภาคอีสานแสดงให้เห็นถึงลักษณะเฉพาะของวัฒนธรรม ในภูมิภาคตั้งแต่โบราณ โบราณวัตถุที่พบในเขตนี้ทั้งของสมัยก่อนประวัติศาสตร์ด้วย เสมาหินที่พบส่วนมากเป็นศิลปะวัตถุแบบทวาราวดีและลพบุรี

สถานที่น่าสนใจ ในเขตอำเภอภูหลวง

ภูหลวง
เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า มีพื้นที่รวม 530,000 ไร่ สภาพทั่วไปเป็นพื้นที่ราบสูง อากาศเย็นตลอดปี

จุดท่องเที่ยวบนภูหลวง เป็นเส้นทางเดินต่อเนื่องกัน โดยเริ่มจากโหล่นมน ซึ่งเป็นบริเวณที่พักนักท่องเที่ยวผ่านป่าดงดิบ ลำห้วยป่าสนสามใบ และดอกไม้สลับทุ่งหญ้าระยะทางประมาณ 2.3 กิโลเมตร ถึงโหล่นสาวแยงคิว จากนั้นไปเป็นเส้นทางเดินไปยังโหล่นหินแอ่วขัน ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ผ่านดงดอกไม้หลายชนิด ต่อไปเป็นทางเดินสู่ลานหินโหล่นแต้ ระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร จะพบกุหลาบขาวและกล้วยไม้ป่าต่าง ๆ บริเวณผาโหล่นแต้ สามารถชมวิวทิวทัศน์ของภูหอ ภูกระดึง ภูยองภู และภูขวาง

นอกจากนั้น ยังมีจุดท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ ผากบ ผาชมวิว โหล่นช้างผึ้ง และซุ้มงูเห่า ซึ่งแต่ละแห่งมีทางเดินต่อถึงกัน

การเดินทางขึ้นภูหลวง ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดเลย จัดรถนำเที่ยว จากตัวจังหวัดไปยังเชิงภูหลวงและมีเจ้าหน้าที่นำนักท่องเที่ยวขึ้นสู่ภูหลวง ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง พร้อมทั้งจัดที่พักและอาหารไว้บริการ เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน โดยต้องติดต่อล่วงหน้า 15 วัน ได้ที่หัวหน้าส่วนอำเภอวังสะพุง สำนักงานการท่องเที่ยวภูหลวง โทร. (042) 841566 ในเวลาราชการ

บริษัททัวร์ที่จัดขึ้นภูหลวง ได้แก่ หนุ่มสาวทัวร์ โทร. 246-5659 และรุ่งเรืองทัวร์ โทร. 280-1460-3, 280-0736-9

ช่วงที่เหมาะเดินป่า อยู่ระหว่างเดือนตุลาคม-พฤษภาคม (เดือนมิถุนายน-กันยายน ภูหลวงจะปิด) หลังจากที่นักท่องเที่ยวเดินเที่ยวทั่วภูหลวงแล้วทางองค์การบริหารส่วน จังหวัดจะมอบประกาศนียบัตรให้

สถานที่น่าสนใจ ในเขตอำเภอภูกระดึง

อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
ตั้งที่ตำบลศรีฐาน มีเนื้อที่ทั้งสิ้น 217,576 ไร่ ประกาศเป็นอุทยานฯ เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2505 บนยอดภูกระดึงเป็นที่ราบกว้างใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 60 ตารางกิโลเมตร มีต้นสนขึ้นเป็นดง มีไม้ดอกและป่าละเมาะ ทุ่งหญ้าสลับด้วยป่าดงดิบเรียงรายไปตามลำธาร มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่หลายชนิด

อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน
เป็นอุทยานแห่งชาติที่จัดตั้งขึ้นใหม่ มีเนื้อที่ประมาณ 72 ตารางกิโลเมตรหรือ 45,000 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย และเขตอำเภอภูผาม่าน อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น มีที่ทำการชั่วคราวตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 201 สาย เลย-ชุมแพ ประมาณกิโลเมตรที่ 264-265 ห่างจากผานกเค้าเพียงไม่กี่กิโลเมตร

สถานที่น่าสนใจ ในเขตอำเภอภูเรือ

อุทยานแห่งชาติภูเรือ
เป็นภูเขาสูงใหญ่ บนยอดเขาเป็นที่ราบกว้างใหญ่ มีต้นสนขึ้นสลับซับซ้อน มีลักษณะแปลกคือมีส่วนหนึ่งเป็นผาชะโงกยื่นออกมาเหมือนหัวเรือสำเภาใหญ่ อุทยานแห่งชาติภูเรือ ตั้งอยู่ในเขตตำบลหนองบัว อำเภอภูเรือ มีเนื้อที่ทั้งสิ้นประมาณ 75,525 ไร่ ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2522

น้ำตกปลาบ่า
หรือน้ำตกตาดสาน อยู่ที่หมู่ 1 บ้านปลาบ่า ตำบลปลาบ่า เป็นน้ำตกที่ตกมาจากแผ่นหินขนาดใหญ่อย่างสวยงาม ลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่างเหมาะสำหรับเล่นน้ำและนั่งพักผ่อนรับประทานอาหาร บริเวณน้ำตกยังไม่มีร้านอาหาร การเดินทางใช้เส้นทางหมายเลข 203 (ภูเรือ-ด่านซ้าย) บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 57-58 เลี้ยวซ้ายตรงสถานีทดลองเกษตรที่สูง-ภูเรือ (บ้านกกโพธิ์) เข้าไปตามทางราดยาง 6.7 กิโลเมตร ก็จะถึงบ้านปลาบ่า จากนั้นเลี้ยวซ้ายไปตามทางลูกรังอีกประมาณ 2 กิโลเมตร จะถึงน้ำตก รวมระยะทางจากอำเภอภูเรือถึงน้ำตก 18 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวที่จะไปเที่ยวน้ำตกปลาบ่าควรใช้รถตู้หรือรถกระบะ

สถานที่น่าสนใจ ในเขตอำเภอด่านซ้าย

พระธาตุศรีสองรัก
ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำหมัน ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 1 กิโลเมตร หรือห่างจากตัวจังหวัด 83 กิโลเมตร ไปตามทางหลวงหมายเลข 203 แล้วแยกขวาตรงกิโลเมตรที่ 66 เข้าทางหลวงหมายเลข 2013 อีก 15 กิโลเมตร จากนั้นแยกขวาเข้าเส้นทาง 2113 อีก 1 กิโลเมตร พระธาตุศรีสองรักมีรูปทรงสัณฐานคล้ายพระธาตุพนม สร้างขึ้นสมัยกรุงศรีอยุธยา พ.ศ. 2103 การสร้างพระธาตุศรีสองรักขึ้นนี้เพื่อเป็นสักขีพยานในการช่วยเหลือซึ่งกัน และกัน ระหว่างกรุงศรีอยุธยาและกรุงศรีสัตนาคนหุต (เวียงจันทน์) องค์พระธาตุสูงประมาณ 30 เมตร ฐานเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีงานนมัสการใหญ่โตทุกปีในช่วงเดือน 6 มีประชาชนเคารพนับถือมาก นอกจากนี้ภายในวัดยังมีพระพุทธรูปปางนาคปรกศิลปะธิเบตด้วย

น้ำตกแก่งสองคอน
อยู่ที่บ้านหัวนายูง ตำบลด่านซ้าย เดินทางใช้เส้นทางหมายเลข 2013 (ด่านซ้าย-นครไทย) อยู่เลยพระธาตุศรีสองรักไปราว 400 เมตร แล้วเลี้ยวขวาเข้าไปตามทางลูกรังอีก 2 กิโลเมตร จากนั้นต้องเดินเท้าเข้าไปอีกเล็กน้อยก็จะถึงน้ำตก

ลักษณะของน้ำตก เป็นธารน้ำกว้างไหลผ่านก้อนหินใหญ่น้อยมากมายลดหลั่นกันลงมาอย่างน่าชม ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่เขียวครึ้มทั่วบริเวณ เหมาะสำหรับนั่งพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง

สถานที่น่าสนใจ ในเขตอำเภอนาแห้ว

วัดโพธิ์ชัยนาพึง
ตั้งอยู่ที่บ้านนาพึง ตำบลนาพึง มีพระพุทธรูปสำคัญศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เคารพของชาวบ้าน คือพระเจ้าองค์แสน หรือพระพุทธรูปฝนแสนห่า ตามประวัติเล่าว่า เสด็จมาจากเมืองเชียงแสนด้วยพระองค์เอง มาประดิษฐานอยู่ที่วัดโพธิ์ชัย โดยมีฆ้องห้อยศอกมา 1 อัน และลูกแก้วเป็นทองสัมฤทธิ์มาด้วย 1 องค์ พร้อมด้วยปืน 1 กระบอก ต่อมาเจ้าเมืองเชียงของทราบข่าวจึงยกขบวนพลช้าง พลม้า เพื่อที่จะอัญเชิญไปเชียงของ แต่ไม่สามารถอัญเชิญไปได้ และเล่ากันต่อมาว่า ถ้าพระพุทธรูปองค์นี้เสด็จไปประดิษฐาน ณ ที่ใด ที่นั้นจะไม่มีการแห้งแล้ง จึงได้ชื่อว่าพระพุทธรูปฝนแสนห่า

พระพุทธรูปองค์แสน
เป็นพระพุทธรูปขนาดหน้าตักกว้าง 34 เซ็นติเมตร สูง 50 เซ็นติเมตร เนื้อองค์เป็นทองสัมฤทธิ์ พระสังฆาฏิเป็นทองนาค พอถึงฤดูตรุษสงกรานต์ ชาวบ้านจะนำพระพุทธรูปองค์แสนมาสรงน้ำและทำพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงทุกปี

โบสถ์และวิหารที่วัดแห่งนี้ก่อสร้างด้วยฝีมือประณีต ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังเกี่ยวกับพุทธประวัติต่าง ๆ กรมศิลปากรได้ทำการตรวจสอบแล้ว พบว่า ทั้งโบสถ์ วิหาร และพระพุทธรูปนั้นมีอายุประมาณ 400 ปี นับเป็นโบราณสถานและโบราณวัตถุที่มีค่ายิ่งของจังหวัดเลย

นอกจากนี้ อำเภอนาแห้วมีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา ยังเป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำลำธาร และน้ำตกที่สวยงามหลายแห่ง

น้ำตกตาดหมี
เป็นน้ำตกที่กั้นลำน้ำหู ซึ่งมีต้นกำเนิดจากภูขาด อยู่ในพื้นที่ของตำบลนาพึง การเดินทางจากอำเภอถึงบริเวณน้ำตก โดยทางสายนาแห้ว-ด่านซ้าย ถึงทางแยกบ้านเกลี้ยงเป็นระยะทาง 6 กิโลเมตร จากบ้านเกลี้ยงเข้าไปถึงน้ำตก เป็นทางเดินเท้าประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที น้ำตกตาดหมีเป็นน้ำตกที่สวยงามมาก มีน้ำตลอดทั้งปี มีความสูงประมาณ 30 เมตร นอกจากนั้นยังมีลำธารน้อยใหญ่ แก่งต่าง ๆ บริเวณน้ำตกเป็นป่าทึบเนื่องจากไม่มีการตัดไม้ทำลายป่า

น้ำตกธารสวรรค์
เป็นน้ำตกที่ใกล้ตัวอำเภอมากที่สุด อยู่หลังโรงเรียนนาแห้ววิทยา ซึ่งห่างจากอำเภอประมาณ 800 เมตร การเดินทางโดยรถยนต์เข้าถึงบริเวณน้ำตกได้โดยสะดวก น้ำตกแห่งนี้มีความสูงประมาณ 15 เมตร บริเวณน้ำตกมีศาลาพักร้อนสำหรับนั่งพักผ่อนหย่อนใจ ตอนล่างมีก้อนหินน้อยใหญ่เรียงรายอย่างสวยงาม มีสาหร่ายและพันธุ์ไม้นานาชนิดขึ้นบริเวณริมฝั่งสองข้างทาง

น้ำตกขั้นบันได
อยู่เหนือน้ำตกธารสวรรค์ประมาณ 1 กิโลเมตร การเดินทางจากน้ำตกธารสวรรค์ไปน้ำตกขั้นบันไดโดยทางเท้าประมาณ 10 นาที แต่ละขั้นของน้ำตกประมาณ 4-7 เมตร ป่าไม้ยังคงอุดมสมบูรณ์ มีชั้นหินเรียงรายกันเป็นทอด ๆ

น้ำตกคริ้ง
อยู่ห่างจากอำเภอประมาณ 15 กิโลเมตร อยู่ติดกับถนนสายเหมืองแพร่-ร่มเกล้า บริเวณน้ำตกมีพืชพันธุ์นานาชนิดขึ้นริมฝั่งทำให้ดูมีความอุดมสมบูรณ์ สวยสด งดงาม มีก้อนหินเรียงกันเป็นชั้น ๆ ตอนล่างมีอ่างน้ำขนาดใหญ่ มีศาลาพักผ่อนหย่อนใจสำหรับผู้มาเที่ยว อยู่ในพื้นที่ของตำบลแสงภา

น้ำตกตาดเหือง (น้ำตกไทย-ลาว)
อยู่ห่างจากอำเภอประมาณ 25 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่และสูงมาก ซึ่งเป็นสมบัติของสองประเทศ ไทย-ลาว เกิดจากลำน้ำเหือง บริเวณรอบๆ เป็นป่าทึบที่มีความอุดมสมบูรณ์ครบถ้วน การเดินทางไปเที่ยวชมโดยทางรถยนต์จากที่ว่าการอำเภอนาแห้วไปตามถนนสายนาแห้ว -ร่มเกล้า จนถึงทางแยกเข้าบ้านบ่อเหมืองน้อย ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร จากปากทางถึงบ้านบ่อเหมืองน้อยระยะทาง 10 กิโลเมตร เส้นทางตลอดสายเป็นทางราดยาง จากนั้นเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 200 เมตร ก็จะถึงบริเวณน้ำตก

สถานที่น่าสนใจ ในเขตอำเภอท่าลี่

พระธาตุสัจจะ
ตั้งอยู่บริเวณวัดลาดปู่ บ้านท่าลี่ ตำบลท่าลี่ ไปตามทางหลวงหมายเลข 201 แยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 2115 สายท่าลี่-อาฮี ห่างจากที่ว่าการอำเภอท่าลี่ประมาณ 2 กิโลเมตร องค์ประกอบของพระธาตุสัจจะ ประกอบด้วยดอกบัวบานมีกลีบ 3 ชั้น สูงประมาณ 1 เมตร ตั้งอยู่รอบองค์พระธาตุสัจจะ องค์พระธาตุสูง 33 เมตร มีสัญลักษณ์คล้ายคลึงกับพระธาตุพนม มีเศวตฉัตร 7 ชั้น ประดิษฐานไว้บนยอดสุดของพระธาตุสัจจะ


หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ : ประชาสัมพันธ์จังหวัดเลย โทร. 0 4281 1746, 0 4283 3209
เทศบาลเมืองเลย โทร. 0 4281 1140
ที่ว่าการอำเภอเมืองเลย โทร. 0 4281 1213
ที่ว่าการอำเภอเชียงคาน โทร. 0 4282 1597
โรงพยาบาลเลย โทร. 0 4281 1541
สภอ.เมืองเลย โทร. 0 4281 1254

0 ความคิดเห็น: